

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2563 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโล ได้จัดพิธีถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี วันที่ 3 มิถุนายน 2563 โดยนางสาวกานติมน รักษาเกียรติ เอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโล ได้นำข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ลงนามถวายพระพร เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดี และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้


พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ “สมเด็จพระปิยมหาราช” พระมหากษัตริย์ผู้เป็นที่รักยิ่งของปวงชน ชาวไทย ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ปวงชนชาวไทยตลอดนับแต่เสด็จ เถลิงถวัลยราชสมบัติจนกระทั่งเสด็จสวรรคต ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่หลายด้าน ที่สำคัญคือ การเลิกทาส และทรงนำพาประเทศชาติให้ก้าวสู่ความทันสมัย ทัดเทียมนานาอารยประเทศ ทรงดำเนินวิเทโศบายในการเจริญสัมพันธไมตรีกับนานาประเทศ ซึ่งรวมถึงการเสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรนอร์เวย์ในปี 2450 (ค.ศ. 1907) เป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งการเสด็จประพาสครั้งนั้น เป็นประวัติศาสตร์สำคัญที่ประชาชนชาวนอร์เวย์ยังระลึกถึงอยู่เสมอ และเป็นรากฐานสำคัญของความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างสองประเทศจนถึงปัจจุบัน
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ “สมเด็จย่า” ที่ชาวไทยเคารพ เทิดทูน ผูกพัน ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการด้วยความเมตตากรุณา ด้วยการดูแลเอาใจใส่ออกเยี่ยมเยียนทุกข์สุขของราษฎรในชนบทอย่างต่อเนื่อง พระราชกรณียกิจที่พระองค์ทรงปฏิบัติตลอดพระชนม์ชีพ สร้างคุณูปการแผ่ไพศาลต่อแผ่นดินไทย โดยเฉพาะด้านการศึกษาและการสาธารณสุข ทรงสนพระราชหฤทัยในคุณภาพชีวิตของพสกนิกรในพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดารให้ได้รับโอกาสการรักษาจากแพทย์แผนปัจจุบัน และโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้ง “หน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี” หรือ “พอ.สว.” อีกทั้งยังทรงสนับสนุนด้านการศึกษาแก่เยาวชนในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน และทรงให้การพัฒนาอาชีพเพื่อการกินดีอยู่ดีของราษฎร โดยเฉพาะชาวไทยภูเขา อันเป็นที่มาของโครงการพัฒนาดอยตุง และพระสมัญญาว่า “แม่ฟ้าหลวง”


ภายหลังพิธี ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้พร้อมใจกันช่วยแม่ชี และญาติโยมล้างจาน เก็บทำความสะอาดวัดไทยนอร์เวย์ ด้วยความสามัคคีกัน เป็นการบำเพ็ญประโยชน์ถวายเป็นพระราชกุศล
ขอน้อมถวายความจงรักภักดี และรำลึกถึงพระราชกรณียกิจและพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้